บริการสารสนเทศ หมายถึง
งานบริการที่ให้ข้อมูลอย่างละเอียดลึกซึ้ง
ช่วยค้นหาข้อมูลหรือเรื่องราวในสาขาวิชาต่างๆให้บริการหลายประเภท เช่น
บริการจัดทำดรรชนีและสาระสังเขปบริการเลือกสรรสารสนเทศเฉพาะบุคคล
บริการข่าวสารทันสมัย เป็นต้น และยังต้องติดต่อกับศูนย์เอกสารและศูนย์สารสนเทศต่าง
ๆเพื่อให้ได้ข้อมูลตามความต้องการของผู้ใช้ ในการค้นหา ข้อมูลโดยใช้ Information
sources นั้น นอกจากจะเป็นเอกสารสิ่งพิมพ์แล้ว information
sources ยังรวมถึงสารสนเทศที่อยู่ในฐานข้อมูลคอมพิวเตอร์
สามารถค้นข้อมูลออกมาในรูปบรรณานุกรม และเนื้อหาเต็มฉบับ (fulltext) บริการสารสนเทศมีจุดมุ่งหมายต้องการให้ผู้ใช้ได้รับสารสนเทศที่ถูกต้อง
สมบูรณ์รวดเร็ว และตรงกับความต้องการของผู้ใช้มากที่สุด
หลักการของบริการสนเทศ
- ความถูกต้อง
- มีความสมบูรณ์
- เชื่อถือได้
- ต้องตรงประเด็น
- ชัดเจน เข้าใจจ่าย
- ต้องทันเวลา
ประเภทของบริการสนเทศ
ในการให้ข้อสนเทศนั้นสามารถแบ่งข้อสนเทศออกเป็นประเภทต่างๆ
ได้ดังนี้
1.ข้อสนเทศทางด้านการศึกษา (Education information) หมายถึง การให้ข้อสนเทศเกี่ยวกับโอกาสและข้อกำหนดต่างๆ
ทางด้านการศึกษาหรือการฝึกฝนรวมทั้งหลักสตรู สถานภาพและปัญหาต่างๆ
ของชีวิตการเรียน
ข้อสนเทศทางการศึกษาอาจประกอบไปด้วยสาระต่าง ๆ
- สถานที่เรียน
- หลักสตรูที่เปิดสอนหรืออบรม
- โครงสร้างหลักสตรู
รายวิชาเรียน
- ค่าใช้จ่ายในการเรียน
ที่พักอาศัย และค่าใช้จ่ายอื่นๆ
- กิจกรรมต่างๆ
ที่มีในสถาบัน
- การดำรงชีวิตอยู่ในสถาบัน
- โอการทางการศึกษาหลังสำเร็จจากสถาบัน
- โอการในการทำงานหลังจากสำเร็จจากสถาบัน
- ข้อเสนออื่นๆ ที่เป็นประโยชน์
2. ข้อสนเทศทางการอาชีพ (vocational information) หมายถึง
การให้ข้อสนเทศเกี่ยวกับตำแหน่งหน้าที่ทางด้านการงาน
คุณสมบัติของบุคคลที่จะเข้าไปทำงาน
สถานภาพและคุณลักษณะของการทำงานความก้าวหน้าและสิ่งตอบแทนในการงาน
ข้อสนเทศดังกล่าวจะต้องเป็นข้อข้อมูลที่มีความเที่ยงตรงและเป็นประโยชน์ต่อการเลือกอาชีพของเด็กทุกคน
ข้อสนเทศที่เกี่ยวข้องกับอาชีพอาจจะประกอบด้วยสาระต่างๆ ดังต่อไปนี้
1. ข้อกำหนดในการที่จะเข้าไปทำงาน
- คุณสมบัติเฉพาะของบุคคลที่จะเข้าทำงาน
- ความสามารถพิเศษ
- ประสบการณ์ในงานที่เกี่ยวข้อง
- วิธีการคัดเลือกบุคคล
2. สถานภาพของการทำงาน
-
หน้าในการทำงาน
- ช่วงเวลาในการทำงาน
- สภาพแวดล้อมการทำงาน
- ผลกระทบที่อาจจะเกิดขึ้นในการทำงาน
3. สิ่งตอบแทน
-
เงินเดือน สวัสดิการและค่าตอบแทนอื่นๆ
- ความรู้สึกพึงพอใจที่ได้รับจากการทำงาน
- แนวโน้นของความต้องการของตลาดแรงงาน
- โอกาสของเข้าไปทำงาน
- ความต้องการของตลาดแรงงาน
- แนวโน้มของความต้องการของตลาดแรงงานในอนาคต
4. ความก้าวหน้าในการทำงาน
- ด้านเงินเดือนสวัสดิการและค่าตอบอื่นๆ
- โอกาสในการศึกษาต่อหรือการฝึกฝนเพิ่มเติม
-
การเลื่อนตำแหน่งหน้าที่ที่สูงขึ้น
3. ข้อสนเทศทางด้านส่วนและด้านสังคม (social information) หมายถึง การให้ข้อสนเทศที่เกี่ยวกับโอกาสและอิทธิพลของสิ่งแวดแล้วต่างๆ
ที่มีต่อบุคคลและความสัมพันธ์ระหว่างบุคคล ซึ่งจะช่วยให้เด็กเข้าใจตนเองได้ดีขึ้น
และสามารถปรับปรุงความสัมพันธ์ระหว่างตนเองและบุคคลอื่นๆ ในสังคม
4.เทคนิควิธีการในการให้บริการสนเทศ
เทคนิควิธีการในการให้บริการสนเทศมีดังต่อไปนี้
1. การให้ข้อสนเทศเป็นรายบุคคล คือ
การสัมภาษณ์เพื่อให้คำปรึกษาเป็นรายบุคคลในปัญหาที่เกี่ยวข้องกับข้อสนเทศต่างๆ
ปัญหาการไม่รู้กระจ่างแจ้งเกี่ยวกับข้อสนเทศต่างๆ
ปัญหาการไม่รู้จักหรือไม่แน่ใจกับตนเองในเรื่องต่างๆ
ปัญหาความไม่สามารถต่อการเลือกและตัดสินใจในการเลือกศึกษาอาชีพและปรับตัวตัวในสังคม
เป็นต้น
2. การให้ข้อสนเทศเป็นกลุ่ม คือ
เป็นวิธีการที่สำคัญและจำเป็นต้องจัดเพราะเท่ากับเป็นการแนะแนวนักเรียนทุกคน
ส่วนใหญ่จะมุ่งเสนอในรูปแบบของกิจกรรม ได้แก่ รายการวิทยุ โทรทัศน์ การปฐมนิเทศ
เป็นต้น
งานบริการสารสนเทศ
สถาบันสารสนเทศเน้นให้บริการสารสนเทศแตกต่างกันไปตามหน้าที่และวัตถุประสงค์ในการจัดตั้ง
ซึ่งพอจะสรุปบริการที่จัดให้โดยทั่วไปได้ดังนี้
1. บริการการอ่าน
เป็นบริการที่สถาบันบริการสารสนเทศจัดเก็บทรัพยากรสารสนเทศในระบบชั้นเปิดและจัดที่นั่งสำหรับอ่านค้นคว้าได้โดยอิสระตามความสนใจของแต่ละบุคคล
พร้อมทั้งจัดทำเครื่องมือช่วยค้นซึ่งอาจจะเป็นบัตรรายการหรือรายการในฐานข้อมูลคอมพิวเตอร์เพื่อให้ผู้ใช้เข้าถึงทรัพยากรสารสนเทศได้โดยสะดวก
2. บริการบรรณานุกรมและสาระสังเขป
เป็นบริการรวบรวมรายการทรัพยากรสารสนเทศที่มีบริการอยู่ในสถาบัน หรืออาจรวบรวมเฉพาะเรื่องที่มีผู้สนใจ
หรือรวบรวมตามระยะเวลาที่จัดหาทรัพยากรสารสนเทศใหม่ ๆ เพื่ออำนวยความสะดวกในการศึกษาค้นคว้า เช่น
การทำบัตรรายการ
การทำดัชนีวารสาร บริการโอแพค (OPAC)
ของห้องสมุด และ
การจัดทำบรรณานุกรมแห่งชาติประจำปี ของหอสมุดแห่งชาติ เป็นต้น
3. บริการให้ยืมทรัพยากรสารสนเทศ
เป็นบริการให้ยืมทรัพยากรสารสนเทศออกไปใช้ภายนอกสถาบัน
โดยผู้ใช้บริการจะต้องสมัครเป็นสมาชิกและปฏิบัติตามระเบียบข้อบังคับของสถาบันบริการสารสนเทศ
4. บริการยืมระหว่างห้องสมุดหรือสถาบัน เป็นบริการที่ช่วยอำนวยความสะดวกแก่สมาชิกที่ต้องการยืมทรัพยากรสารสนเทศจากสถาบันอื่น
โดยสถาบันต้นสังกัดของสมาชิกช่วยอำนวยความสะดวกในการติดต่อประสาน ซึ่งผู้ใช้บริการต้องเสียค่าใช้จ่ายบางส่วน
เช่น ค่าถ่ายเอกสาร ค่าขนส่ง เป็นต้น
5. บริการจองหนังสือหรือบริการหนังสือสำรอง เป็นบริการที่ช่วยอำนวยความสะดวกในการใช้ทรัพยากรสารสนเทศที่มีอยู่อย่างจำกัด แต่มีผู้สนใจต้องการใช้จำนวนมาก
สถาบันบริการสารสนเทศอาจให้บริการจองหนังสือล่วงหน้า
หรืออาจจัดบริการหนังสือสำรองไว้ในสถาบันโดยไม่ให้ยืมออกนอกสถาบันในช่วงระยะเวลาหนึ่ง เพื่อให้ได้ใช้บริการอย่างทั่วถึงทุกคน
6. บริการตอบคำถามและช่วยการค้นคว้า
เป็นบริการให้คำแนะนำและช่วยเหลือผู้ใช้บริการในการค้นคว้าหาข้อมูลต่าง ๆ
ที่มีในสถาบัน และแหล่งสารสนเทศอื่น ๆ
ที่มีเนื้อหาเกี่ยวข้องกับเรื่องที่ผู้ใช้ต้องการ
7. บริการแนะนำแหล่งสารสนเทศ เป็นบริการแนะนำแหล่งหรือสถาบันบริการสารสนเทศ วิธีการใช้
วิธีการสืบค้นทรัพยากรสารสนเทศ
เพื่อให้ผู้ใช้บริการได้เข้าถึงแหล่งจัดเก็บไว้ ได้อย่างรวดเร็ว
และใช้ประโยชน์ในแหล่งสารสนเทศนั้นได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ
8. บริการเผยแพร่สารสนเทศและนิทรรศการ เป็นบริการเผยแพร่สารสนเทศในโอกาสพิเศษต่าง
ๆ เพื่อชักชวนให้เกิดความสนใจการอ่าน
และการศึกษาค้นคว้าต่อเนื่อง เช่น การจัดนิทรรศการ การจัดประชุมอภิปรายทางวิชาการ การจัดทำจุลสาร วารสารวิชาการ เป็นต้น
9. บริการข่าวสารทันสมัย เป็นบริการรวบรวม คัดเลือกและเผยแพร่สารสนเทศใหม่ ๆ
แก่สมาชิกหรือผู้ใช้บริการ เช่น
การทำสำเนาบทความจากวารสาร
การทำบรรณานุกรมและสาระสังเขปแล้วส่งให้ผู้ใช้บริการ เป็นต้น
10. บริการถ่ายสำเนาและพิมพ์ผลการค้นข้อมูล เป็นบริการถ่ายสำเนาเอกสารไปใช้ประโยชน์ เช่น
บริการถ่ายเอกสาร
บริการพิมพ์ผลการสืบค้นข้อมูลจากฐานข้อมูลออนไลน์ อินเทอร์เน็ต
หรือแฟ้มข้อมูล
11. บริการอินเทอร์เน็ต
เป็นการให้บริการเครื่องคอมพิวเตอร์ที่เชื่อมต่อกับระบบเครือข่ายอินเทอร์เน็ต เพื่อให้ผู้ค้นคว้าได้ใช้บริการต่าง ๆ
เช่น การสืบค้นฐานข้อมูลอิเล็กทรอนิกส์ การสืบค้นข้อมูลจากเว็บไซต์ และการใช้บริการจดหมายอีเล็กทรอนิกส์ (e
–mail) เป็นต้น
ที่มา : http://www.learners.in.th/blogs/posts/345740
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น